8 เทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ที่ควรรู้ก่อนคิดทำธุรกิจ
ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ให้ได้ยอดขายที่ดี ควรเริ่มจากการมีความเข้าใจทางการทำการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น
การทำการตลาดออนไลน์ มีหลากหลายเทคนิคและหลากหลายกลยุทธ์ที่ควรพิจารณาเพื่อให้การตลาด
ของธุรกิจคุณมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุด โดยเราจะยกตัวอย่าง
บางเทคนิคที่ควรรู้มาให้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น :
1. การวิเคราะห์ตลาดและกลุ่มเป้าหมาย :
การเข้าใจตลาดและกลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ตรวจสอบข้อมูลประชากร (demographics), พฤติกรรม, ความชอบ,
และความต้องการของลูกค้า เพื่อให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้
- การสร้างโปรไฟล์ของกลุ่มเป้าหมาย (Target Profile) : สร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดของกลุ่มเป้าหมาย เช่น อายุ, อาชีพ, ความสนใจ
- การประเมินความต้องการและความชอบ (Needs and Preferences) : เข้าใจถึงความต้องการและความชอบเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย
= การทดสอบกลุ่มเป้าหมาย (Target Testing) : ทดสอบกลยุทธ์การตลาดและข้อความที่คุณวางแผนจะใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
2. การตั้งเป้าหมายและ KPI :
การตั้งเป้าหมายและการกำหนด KPI (Key Performance Indicators) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจและการตลาด
เพื่อให้สามารถติดตามความก้าวหน้าและประเมินผลลัพธ์ที่ได้รับ เป้าหมายและ KPI ที่ดีจะช่วยให้ทีมงานสามารถ
มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญและสามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้
- ทำให้เป็น SMART Goals
- Specific (เฉพาะเจาะจง): เป้าหมายควรชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น "เพิ่มยอดขาย 20% ภายใน 6 เดือน"
- Measurable (วัดผลได้): เป้าหมายต้องสามารถวัดผลได้ เช่น จำนวนลูกค้าใหม่, ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
- Achievable (สามารถทำได้): เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง โดยพิจารณาจากทรัพยากรและความสามารถที่มี
- Relevant (เกี่ยวข้อง): เป้าหมายต้องเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กร
- Time-bound (มีกรอบเวลา): เป้าหมายควรกำหนดกรอบเวลาเพื่อให้สามารถติดตามความก้าวหน้าได้ เช่น "ภายในไตรมาสที่ 3"
การตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว
- เป้าหมายระยะสั้น : เป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น 1-6 เดือน
2. การตั้งเป้าหมายและ KPI
- ทำให้เป็น SMART Goals
- Specific (เฉพาะเจาะจง): เป้าหมายควรชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น "เพิ่มยอดขาย 20% ภายใน 6 เดือน"
- Measurable (วัดผลได้): เป้าหมายต้องสามารถวัดผลได้ เช่น จำนวนลูกค้าใหม่, ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
- Achievable (สามารถทำได้): เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริง โดยพิจารณาจากทรัพยากรและความสามารถที่มี
- Relevant (เกี่ยวข้อง): เป้าหมายต้องเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กร
- Time-bound (มีกรอบเวลา): เป้าหมายควรกำหนดกรอบเวลาเพื่อให้สามารถติดตามความก้าวหน้าได้ เช่น "ภายในไตรมาสที่ 3"
การตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว
- เป้าหมายระยะสั้น : เป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น 1-6 เดือน
- เป้าหมายระยะยาว: เป้าหมายที่ต้องการเวลานานกว่าจะบรรลุ เช่น 1-5 ปี
การตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
เป้าหมายเชิงปริมาณ : เช่น เพิ่มยอดขาย, ลดค่าใช้จ่าย
เป้าหมายเชิงคุณภาพ : เช่น การปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า, การพัฒนาแบรนด์
3. การทำตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)
ใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น SEO (การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหา), SEM (การตลาดผ่านการค้นหา),
สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media), และอีเมลมาร์เก็ตติ้ง (Email Marketing) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
4. การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า (Content Marketing)
สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจ เช่น บทความ, วิดีโอ, หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา
5. การวางแผนและบริหารงบประมาณ
วางแผนการใช้จ่ายในด้านการตลาดให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อย่าลืมตรวจสอบและปรับงบประมาณตามความจำเป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
6. การศึกษาและติดตามคู่แข่ง
วิเคราะห์กลยุทธ์และกิจกรรมของคู่แข่งเพื่อเข้าใจแนวโน้มและหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง
คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่โดดเด่น แบ่งรายละเอียนดังนี้
- คู่แข่งหลัก (Key Competitors) : ระบุและวิเคราะห์คู่แข่งหลักในตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขานำเสนอ
- จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง (Strengths and Weaknesses) : เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของคู่แข่ง
- ตำแหน่งทางการตลาด (Market Positioning) : เข้าใจว่าคู่แข่งแต่ละรายตั้งเป้าหมายที่ตลาดใดและเสนอคุณค่าอะไร
7. การทดสอบและปรับปรุง (A/B Testing)
ทดสอบกลยุทธ์และเนื้อหาต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่ากลยุทธ์ใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ใช้ข้อมูลที่ได้รับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการตลาด
8. การวัดและวิเคราะห์ผล:
ทดสอบกลยุทธ์และเนื้อหาต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่ากลยุทธ์ใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ใช้ข้อมูลที่ได้รับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการตลาด
สรุปผล
การทำการตลาดออนไลน์ ควรมีเทคนิคและกลยุทธ์ที่น่าสนใจ โดยการวิเคราะห์การตลาดและตั้งกลุ่มเป้าหมายจะทำให้เราเข้าใจในกลุ่มลูกค้าของธุรกิจเราง่ายยิ่งขึ้น
เพื่อทำให้สามารถเราสามารถกำหนดการตลาดที่ตรงกับความต้องการของพวกกลุ่มลูกค้า การตั้งเป้าหมาย KPI ทำให้เราสามารถติดตาม
ความก้าวหน้าและประเมินผลลัพธ์ของธุรกิจเราได้ง่าย และการศึกษาคู่แข่งเพื่อให้เราวิเคราะห์คู่แข่งหลักในตลาดธุรกิจแนวเดียวกัน
กับธุรกิจของเรา และช่วยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของธุรกิจของเราและคู่แข่ง เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจอย่างหนึ่ง
ที่จะช่วยให้เราประสบผลสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น